สวัสดีค่ะ วันนี้ก็มาพบกับเรื่องเล่า ตำนาน ลี้ลับอีกแล้วนะคะ มาดูว่าวันนี้จะมีเรื่องเล่าหลอนๆเรื่องอะไรมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน ไปดูกันเลยจ้าาาา
ประวัติความเป็นมา
หาดนางเหงา (ท่านางเหงา)

ย้อนอดีตปางหลัง
ครั้งเมื่อท้าวอินทะสะเกษครองเมือง “ ขุขันธ์คีรีศรีนครลำดวน” ก่อนจะมาปรากฏเป็น “เมืองศรีสะเกษเขตดงลำดวน” หรือในนามจังหวัดศรีสะเกษ
ท้าวอินทะสะเกษ
ผู้ครองเมืองขุขันธ์ ได้ยินข่าวความงดงามของนาง “เจียงได”
ลูกสาวเจ้าเมือง “ชี้ช้วน”
หรือ หมู่บ้าน “ชีทวน” ปัจจุบันในท้องที่อำเภอเขื่องใน
จังหวัดอุบลราชธานี
ว่านางเจียงไดนั้นสวยสดงดงามยิ่งนัก ข่าวยิ่งนัก ข่าวล่ำลือไปหลายหัวเมือง ท้าวอินทะสะเกษจึงยกทัพพาไพร่พลออกจากเมืองขุขันธ์
ข้ามลำน้ำมูล หวังจะไปสู่ขอนางเจียงได ลูกสาวเจ้าเมือง ชี้ช้วน
โดยยกทัพข้ามลำน้ำมูลมาตรง “ท่าหลวง” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านเทิน ตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
ในปัจุบัน กองทัพเมืองขุขันธ์ศรีสะเกษ
พักนอนตรงชายทุ่งเทิน ส่งม้าเร็วไปสืบความที่เมือง “ ชี้ช้วน”
ทันที ม้าเร็วกลับมาบอกว่านางเจียงไดมีคู่หมั้นหมายเสียแล้ว
หมั้นไว้กับ “ ท้าวกาละหงษ์” เจ้าเมือง
“ พะนา” ปัจจุบันคืออำเภอพนา จังหวัดอุบลราชธานี ท้าวอินทะสะเกษโกรธมาก
จึงยกทัพเข้าชิงนางทันที และได้นางเจียงไดมาไว้ในครองครอง
แล้วถอนทัพมาตั้งที่หมู่บ้าน “ เมืองน้อย ” เพื่อรับศึกท้าว “ กาละหงษ์”
เจ้าเมืองพะนา ท้าวกาละหงส์ ยกทัพติดตามนางเจียงไดในคืนนั้นทันที จึงเกิดศึกชิงนาง ระหว่างท้าวอินทัสะเกษ เจ้าเมืองขุขันธ์
กับท้าวกาละหงส์ เจ้าเมืองพะนา รบราฆ่าฟันกันอยู่หลายปีทีเดียว สนามรบฝ่ายศรีสะเกษ
คือบ้านเมืองน้อย กองทัพเมืองพะนา ตั้งอยู่ที่บ้านลาดทราย หรือบ้านละทาย
ในปัจจุบัน ท้าวอินทะสะเกษ อยู่กับนางเจียงไดมานานจนคลอดบุตรเป็นชายเจ้าเมืองขุขันธ์
ดูหน้าตาลูกแล้วไม่เหมือนตัว รูปชั่วตัวเหมือนลิง
ครุ่นคิดว่าเป็นลูกของ กาละหงส์ เมืองพะนา บ้านป่าเมืองลิง จึงให้บ่าวไพร่จัดทำแพ เพื่อจำนำลูกน้อยไปไหลล่องแม่น้ำมูลหนีไปให้ไกลตา
ทั้งๆ ที่นางเจียงไดไม่ยินยอม นางเจียงไดเดินลัดเลาะริมฝั่งแม่น้ำมูล เพื่อดักรอแพลูกน้อยจะล่องผ่าน
นางจึงมาปักหลักรอพบแพลูกล่องตรง “ ท่านางเหงา
” คือท่าสะพานข้ามมูลในปัจจุบัน คนทั้งหลายจึงเรียกท่านี้ว่า
“ ท่านางเหงา” หรือ “ หาดนางเหงา ” เพราะนางโศกเศร้าเสียใจร้องห่มร้องไห้เกินที่จะบรรยาย
นี่แหละคือที่มาอันวิปโยคโศกเศร้าเหงาใจ ผู้คนจำไว้เถิดหนา
ท่านางเหงา หรือ หาดนางเหงา ในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น